แบบฝึกหัดที่ 5
1 . ให้นักศึกษาศึกษารายะเอียดพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา แล้วตอบคำถาม
1. พรบ.สภาครูฯ 2546 ประกาศใช้และบังคับเมื่อใด
ตอบ วันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็นปีที่ ๕๘ ในรัชกาลปัจจุบัน
2. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูออกให้แก่ใครบ้าง
ตอบ
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามพระราชบัญญัตินี้
3. คุรุสภามีวัตถุประสงค์อะไรบ้าง
ตอบ (๑) กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ
ออกและเพิกถอนใบอนุญาต
กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
รวมทั้งการพัฒนาวิชาชีพ
(๒)
กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพ
(๓) ประสาน
ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
4. อำนาจหน้าที่คุรุสภา
มีอะไรบ้าง
ตอบ คุรุสภามีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑)
กำหนดมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
(๒)
ควบคุมความประพฤติและการดำเนินงานของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
(๓)
ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอประกอบวิชาชีพ
(๔)
พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(๕)
สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรจาบรรณของวิชาชีพ
(๖)
ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
(๗)
รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรของสถาบันต่างๆ ตามมาตรฐานวิชาชีพ
(๘)
รับรองความรู้และประสบการณ์ทางวิชาชีพ รวมทั้งความชำนาญในการประกอบวิชาชีพ
(๙)
ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
(๑๐)
เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของประเทศไทย
(๑๑)
ออกข้อบังคับของคุรุสภาว่าด้วย
(๑๒)
ให้คำปรึกษาหรือเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายหรือปัญหาการพัฒนาวิชาชีพ
(๑๓)
ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ หรือการออกกฎกระทรวง
ระเบียบ และประกาศต่างๆ
(๑๔)
กำหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อกระทำการใดๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคุรุสภา
(๑๕)
ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคุรุสภา
5. คุรุสภาอาจมีรายได้มาจากแหล่งใด
ตอบ คุรุสภาอาจมีรายได้
ดังนี้
(๑)
ค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้
(๒)
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(๓)
ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและการดำเนินกิจการของคุรุสภา
(๔)
เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่คุรุสภา
(๕)
ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
รายได้ของคุรุสภาไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
รวมทั้งไม่อยู่ในข่ายการบังคับตามกฎหมายภาษีอากร
6. คณะกรรมการคุรุสภามีกี่คน
ใครเป็นประธาน
ตอบ 39 คน
ประธานท่านศาสตราจารย์ ดร.ไพฑูรย์
สินลารันต์
7. กรรมการคุรุสภาที่มาจากผู้แทนตำแหน่งครูต้อง
ประกอบด้วย
ตอบ
ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น และมาจากสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา
สถาบันอาชีวศึกษา สถานศึกษาเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตามสัดส่วนจำนวนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
8. คณะกรรมการคุรุสภามีหน้าที่
อะไร ได้แก่
ตอบ 1. บริหารและดำเนินการตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของคุรุสภาซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
2. ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
3. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา
54
4. เร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพปฏิบัติตามอำนาจ และหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
5. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกระทำการใด
ๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
6. ควบคุม ดูแล
การดำเนินงาน และการบริหารงานทั่วไป ตลอดจนออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ
หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ในเรื่องดังต่อไปนี้
(ก) การจัดแบ่งส่วนงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาและขอบเขตหน้าที่ของส่วนงานดังกล่าว
(ข) การกำหนดตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะ อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง
และค่าตอบแทนอื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภา
(ค) การคัดเลือก การบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน
วินัยและการลงโทษของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งวิธีการ
เงื่อนไขในการจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่ของคุรุสภา
(ง) การบริหารและจัดการการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของคุรุสภา
(จ)
กำหนดอำนาจหน้าที่และระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายใน
7. กำหนดนโยบายการบริหารงาน
และให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
8. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
9. พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
9. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีกี่คน
ประธานคือใคร หน้าที่สำคัญ
ตอบ 16 คน ประธานดร.พลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง หน้าที่สำคัญ
พิจารณาการออกใบอนุญาต พักใช้หรือเพิกถอน
10. ผู้เป็นเลขาธิการคุรุสภา
จะต้องมีอายุไม่เกิน
ตอบ มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์
11. ผู้ที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ประกอบด้วยใคร ยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ วิทยากร ผู้สอนตามอัธยาศัย ครูฝึกสอน
ผู้บริหารระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา ครูผู้บริหารระดับปริญญาทั้งรัฐและเอกชน
12. คุณสมบัติผู้ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
มีอะไรบ้าง
ตอบ อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ / มีวุฒิทางการศึกษา /
ผ่านการสอนในสถานศึกษาไม่น้อยกว่า 1 ปี
และผ่านตามคุรุสภากำหนด
13. หากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพไม่ออก
ไม่ต่อ ใบอนุญาต ต้องจัดกระทำอย่างไร
ตอบ อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการคุรุสภา ภายใน 30 วัน
14. มาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย
มาตรฐานอะไร
ตอบ มาตรฐานความรู้และประสบการณ์ /
มาตรฐานการปฏิบัติงาน / มาตรฐานการปฏิบัติตน
15. มาตรฐานการปฏิบัติตน
ประกอบด้วยอะไร
ตอบ จรรยาบรรณต่อตนเอง , ต่ออาชีพ ,ต่อผู้รับบริการ , ต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ,ต่อสังคม
16. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพอาจวินิจฉัย
มีหน้าที่
ตอบ ยก/ตัก/ภาค/พัก/เพิก คือ ยกข้อกล่าวหา /
ตักเตือน / ภาคทัณฑ์ / พักใช้ใบอนุญาต ไม่เกิน 5 ปี / เพิกถอนใบอนุญาต
17. สมาชิกคุรุสภามี
กี่ประเภทประกอบด้วย
ตอบ 2 ประเภท คือ สามัญและกิตติมศักดิ์ (เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการคุรุสภาแต่งตั้งโดยมติเอกฉันท์
18. สมาชิกภาพของสมาชิกคุรุสภาสิ้นสุดอย่างไร
ตอบ 5 วิธี คือ
ตาย/ลาออก/คณะกรรมการคุรุสภามีมติให้พ้น/ถอดถอนกิตติมศักดิ์/ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
19. สกสค.ย่อมาจาก อะไร
ตอบ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา
20. สกสค.มีกี่คน ใครเป็นประธาน
ตอบ 23 คน รมต.ศธ.
นิติบุคคลในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
21. ผู้ใดสอนโดยไม่มีใบอนุญาตจะต้องถูกดำเนินการอย่างไร
ตอบ
จำคุกไม่เกิน 1 ปี
หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
22. ผู้ใดถูกพักใช้หรือแสดงตนว่ามีใบอนุญาตโดยเป็นเท็จมีโทษเป็นอย่างไร
ตอบ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000
บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
23. ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พรบ.สภาครูฯ2546 คือ ใคร
ตอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
24. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
เป็นอย่างไร
ตอบ
ต่อ/แทน , รอง ,
นาญ , ขึ้น = 200 , 300 , 400 . 500 บาท หมายถึง ค่าต่อใบอนุญาตหรือใบแทนใบอนุญาต 200 บาท
, ใบรับรอง 300 บาท , แสดงความชำนาญการ 400 บาท , ขึ้นทะเบียนใหม่
500 บาท
2 . ให้นักศึกษาศึกษามาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา แล้วตอบคำถามต่อไปนี้
1.นักศึกษาเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพอย่างไร
ตอบ วิชาชีพ
(Profession) เป็นอาชีพให้บริการแก่สาธารณชนที่ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญเป็นการเฉพาะ ไม่ซ้ำซ้อนกับวิชาชีพอื่น และมีมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ
โดยผู้ประกอบวิชาชีพต้องฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเพียงพอก่อน ที่จะประกอบวิชาชีพต่างกับอาชีพ (Career) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องทำให้สำเร็จโดยมุ่งหวังค่าตอบแทนเพื่อการดำรงชีพเท่านั้น
2.วิชาชีพควบคุมท่านเข้าใจอย่างไร
ตอบ
จะเป็นหลักประกันและคุ้มครองให้ผู้รับบริการทางการศึกษาได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
รวมทั้งจะเป็นการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพให้สูงขึ้น
3.การประกอบวิชาชีพควบคุมมีข้อจำกัดอย่างไร
ตอบ 1.
ต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ
โดยยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามที่คุรุสภากำหนด ผู้ไม่ได้รับอนุญาต
หรือสถานศึกษาที่รับผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าประกอบวิชาชีพควบคุมในสถานศึกษา จะได้รับโทษตามกฎหมาย
2. ต้องประพฤติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ รวมทั้งต้องพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงไว้ซึ่งความรู้ความสามารถ และความชำนาญการตามระดับ
คุณภาพของมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ
3. บุคคลผู้ได้รับความเสียหายจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ มีสิทธิ กล่าวหา หรือกรรมการคุรุสภา กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ และบุคคลอื่น
มีสิทธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพที่ประพฤติผิดจรรยาบรรณได้
4. เมื่อมีการกล่าวหาหรือกล่าวโทษ
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพอาจวินิจฉัย
ชี้ขาดให้ยกข้อกล่าวหา/กล่าวโทษ
ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ และผู้ถูกพักใช้
หรือเพิกถอนใบอนุญาตไม่สามารถประกอบวิชาชีพต่อไปได้
4.มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษาหมายถึงอะไร
พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546
กำหนดให้มีมาตรฐานวิชาชีพกี่ด้านประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา คือ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ และคุณภาพ
ที่พึงประสงค์ในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดคุณภาพในการประกอบวิชาชีพ
สามารถสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้แก่ผู้รับบริการจากวิชาชีพได้ว่าเป็นบริการที่มีคุณภาพ ตอบสังคมได้ว่าการที
กฎหมายให้ความสำคัญกับวิชาชีพทางการศึกษา
และกำหนดให้เป็นวิชาชีพควบคุม นั้น
เนื่องจากเป็นวิชาชีพที่มีลักษณะเฉพาะต้องใช้ความรู้ ทักษะ และความเชี่ยวชาญในการประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มาตรา 49
กำหนดให้มีมาตรฐานวิชาชีพ 3
ด้าน ประกอบด้วย
1. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ หมายถึง
ข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะ เข้ามาประกอบวิชาชีพ
จะต้องมีความรู้และมีประสบการณ์วิชาชีพเพียงพอที่จะประกอบวิชาชีพ จึงจะสามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ
และมีประสบการณ์พร้อมที่จะประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
2.
มาตรฐานการปฏิบัติงาน หมายถึง
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในวิชาชีพ
ให้เกิดผลเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด พร้อมกับมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความชำนาญในการประกอบวิชาชีพ
ทั้งความชำนาญเฉพาะด้านและความชำนาญตามระดับคุณภาพของมาตรฐานการปฏิบัติงาน
หรืออย่างน้อยจะต้องมีการพัฒนาตามเกณฑ์ที่กำหนดว่ามีความรู้ ความสามารถ
และความชำนาญ เพียงพอที่จะดำรงสถานภาพของการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพต่อไปได้หรือไม่
นั่นก็คือการกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องต่อใบอนุญาตทุกๆ 5
ปี
3. มาตรฐานการปฏิบัติตน
หมายถึง
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการประพฤติตนของ ผู้ประกอบวิชาชีพ โดยมีจรรยาบรรณของวิชาชีพเป็นแนวทางและข้อพึงระวังในการประพฤติปฏิบัติ เพื่อดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียง ฐานะ
เกียรติ และศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ ตามแบบแผนพฤติกรรม
ตามจรรยาบรรณของวิชาชีพที่คุรุสภาจะกำหนดเป็นข้อบังคับต่อไป
หากผู้ประกอบวิชาชีพผู้ใดประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นจนได้รับการร้องเรียนถึงคุรุสภาแล้ว
ผู้นั้นอาจถูกคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพวินิจฉัย ชี้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) ยกข้อกล่าวหา (2)
ตักเตือน (3)
ภาคทัณฑ์ (4)
พักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาตาม
5.ท่านเข้าใจมาตรฐานความรู้และประสบการณ์อย่างไร
สรุปและอธิบาย
ตอบ มาตรฐานความรู้และประสบการณ์จะเป็นข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะเข้ามาประกอบวิชาชีพ
จะต้องมีความรู้และมีประสบการณ์วิชาชีพเพียงพอที่จะประกอบวิชาชีพ จึงจะสามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ
และมีประสบการณ์พร้อมที่จะประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้
6.ท่านเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติงานและปฏิบัติตนของครูผู้สอนเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ มีความคล้ายกันเนื่องจากมาตรฐานการปฏิบัติงานและปฏิบัติตนของครูผู้สอนการ
พัฒนาฝีมือแรงงานด้วยระบบการฝึกตามความสามารถเป็นรูปแบบการฝึกที่มีการวาง
แผนการฝึกระหว่างผู้รับการฝึกและผู้สอนโดยออกแบบการเรียนรู้ให้ยืดหยุ่นตาม
ความต้องการและความสามารถของผู้รับการฝึก
สภาพการฝึกเน้นการปฏิบัติตามกิจกรรมหรืองานที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น